ศิริราชมูลนิธิ โรงพยาบาลศิริราช และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ประกาศความสำเร็จ “โครงการรักษาผู้ป่วยด้อยโอกาสที่มีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เทคโนโลยีขั้นสูง” (High CostHigh Technology) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปี วันประสูติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ปี พ.ศ.2559 – 2566 โดย“ศิริราชมูลนิธิ” ขอบคุณผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ที่ได้มีส่วนร่วมกันบริจาคเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงครั้งนี้และเชื่อว่า “ทุกชีวิตมีคุณค่า” ให้ทุกคนได้มีโอกาสในการใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง และผู้อื่น ทั้งวันนี้และวันข้างหน้า และไม่ได้ช่วยเพียง 1 ชีวิตให้หายป่วยเท่านั้น แต่ 1 ชีวิตที่ช่วย อาจหมายถึงคนข้างหลังอีกหลายชีวิต เขาอาจจะมีประโยชน์กับคนอื่นๆ อีกหลายคนในครอบครัวและสังคม “การช่วยที่มากกว่าช่วย การให้ที่มากกว่าให้“ (Give For More)
ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทรรองประธานกรรมการศิริราชมูลนิธิ คนที่ 1 เปิดเผยว่าทาง ศิริราชมูลนิธิ โรงพยาบาลศิริราช และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ริเริ่ม “โครงการรักษาผู้ป่วยด้อยโอกาสที่มีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เทคโนโลยีขั้นสูง” (High Cost HighTechnology) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 เพื่อการรักษาผู้ป่วยด้อยโอกาส ถวายเป็นพระราชกุศลแด่รัชกาลที่ 9 และร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โครงการนี้ได้ช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาสจำนวนมาก ในโรคที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงและจำเป็นต้องทำการรักษาพยาบาลด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง ที่ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้ยากและผู้ป่วยเหล่านี้ไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายได้ นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยด้อยโอกาสหลายรายเป็นโรคมากกว่า 1 ชนิดที่จำเป็นต้องรับการรักษาและช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน อาทิ โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง มะเร็ง เนื้องอกในไต ตับ ปอด และกระดูก โรคปอด โรคหัวใจ โรคระบบทางเดินอาหาร มะเร็งในกระเพาะอาหาร นิ่วในท่อน้ำดี และโรคติดเชื้อร้ายแรงต่าง ๆ เป็นต้น
ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ในความรับผิดชอบของศิริราชมูลนิธิและคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลดังที่ได้กล่าวมาและแรกเริ่มดำเนินโครงการ ฯ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2559 – มิถุนายน2561 และหลังจากจบโครงการ ฯ ดังกล่าว มีการขยายระยะเวลาของโครงการ ฯ มาอย่างต่อเนื่องจนสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการรักษา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่รัชกาลที่ 9 และร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รวมระยะเวลา 7 ปี นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2559 จนถึงมิถุนายนปี พ.ศ. 2566
โดยการรักษาผู้ป่วยด้อยโอกาสที่ได้รับการอนุมัติในหลักการจะกระจายไปยัง 13 ภาควิชาและศูนย์ภาคีเครือข่ายย่อยต่าง ๆ อาทิ โครงการการรักษาผู้ป่วยโดยการใส่ลิ้นหัวใจ Pulmonary Valve ผ่านสายสวนหัวใจแทนการผ่าตัด ในผู้ป่วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ซึ่งต้องใช้งบประมาณเฉลี่ยสูงถึง 1,050,000 บาท/ราย, โครงการการรักษาโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองด้วยการใช้ท่อค้ำยันชนิดพิเศษ (Flow Diverter) ที่ใช้งบประมาณเฉลี่ย 405,000 บาท/ราย, โครงการการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีภาวะการทำงานของปอดและหัวใจผิดปกติรุนแรงเฉียบพลันด้วยเครื่องปอดและหัวใจเทียม ใช้งบเฉลี่ย 300,000 บาท/รายและโครงการการส่องกล้องทางเดินน้ำดี เพื่อรักษาโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น การสลายนิ่วในท่อน้ำดีด้วยเลเซอร์ผ่านกล้อง Digital single operator cholangiopancreatoscopy ใช้งบเฉลี่ย140,000 บาท/ราย เป็นต้น
โดยเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ป่วยเข้าร่วมในโครงการ ฯ ต้องเป็นผู้ป่วยที่ผ่านการวินิจฉัยโรคตามเกณฑ์ของคณะกรรมการโครงการ ฯ ตัดสินการรักษาพยาบาลที่มีความจำเป็นของผู้ป่วยที่มี High Cost High Technology ที่โรงพยาบาลทั่วไปทำไม่ได้ และเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการประเมินทางด้านเศรษฐฐานะแล้วว่าเหมาะ สมจะเข้าร่วมโครงการ ฯ จากนักสังคมสงเคราะห์โรงพยาบาลศิริราช และต้องเป็นผู้ป่วยที่ยินดีที่จะเข้าพักในหอผู้ป่วยสามัญเท่านั้น
ขณะนี้ยังมีผู้ป่วยที่ยังคงมีความจำเป็นต้องใช้High Cost High Technology อีกจำนวนมาก ศิริราชมูลนิธิ โรงพยาบาลศิริราช และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จึงได้เปิดโครงการใหม่ภายใต้ชื่อ “โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี 70 พรรษา เพื่อรักษาผู้ป่วยด้อยโอกาสที่มีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ปี 2566 – 2568” โดยเริ่มโครงการ ฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 30 กันยายน 2568
“ขอขอบคุณผู้มีจิตศรัทธา ที่ได้มีส่วนร่วมกันบริจาคเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงครั้งนี้ และเชื่อว่า “ทุกชีวิตมีคุณค่า“ ให้ทุกคนได้มีโอกาสในการใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง และผู้อื่น ทั้งวันนี้และวันข้างหน้า และไม่ได้ช่วยเพียง 1 ชีวิตให้หายป่วยเท่านั้น แต่ 1 ชีวิตที่ช่วย อาจหมายถึงคนข้างหลังอีกหลายชีวิต เขาอาจจะมีประโยชน์กับคนอื่น ๆ อีกหลายคนในครอบครัวและสังคม “การช่วยที่มากกว่าช่วย การให้ที่มากกว่าให้” Give For More ให้ทุกชีวิตได้ไปต่อ โดยขอเชิญชวนทำดีร่วมกันด้วยการช่วยกันกระจายข่าวออกไปให้กว้างที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิตและมีชีวิตของผู้ป่วยให้มากที่สุด”ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทรกล่าวสรุปในตอนท้าย