แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา และอดีตผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เล่าถึงกรณีคดีของดาราสาว “แตงโม นิดา” ผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ใจความว่า ตนเป็นผู้สังเกตุการณ์ ดูว่ามีอะไรที่เป็นวิทยาศาสตร์ได้บ้าง ปรากฏว่าสิ่งที่ได้เห็นคือบาดแผล แผลกลุ่มแรกแผลต้นขาเปลี่ยนแปลงเพราะเขาเย็บไปแล้วเราดูอะไรไม่ได้ กลุ่มที่สองคือแผลที่สะเปะสะปะเราไม่รู้ว่าอันไหนแผลเก่าแผลใหม่ แต่กลุ่มที่สามที่เห็นชัดเลยคือแผลถลอกตื้นเป็นแนวที่ต้นขาด้านใน ข้างหลัง เฉียงลงไปถึงน่อง ข้างละ 10 แผล ขนานกันคล้ายก้างปลาเป็นบาดแผลไม่ลึกแค่ผิวๆ อันนี้มีลักษณะเฉพาะที่สามารถบอกได้ว่ากระทบอะไร ตนคิดอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกคือฐานเรือว่า แต่ต้องพิสูจน์มีรอยของการกระทบไหม อีกอย่างคือใบพัดเนื่องจากแผลเป็นแนวขนาดกันมันบ่งบอกได้ว่าร่างเคลื่อนที่ผ่านใบพัดค่อนข้างนิ่ง ทีนี้ร่างอยู่ในน้ำมันนิ่งไม่ได้ แสดงว่ากระแสน้ำทำให้เขานิ่ง และกระแสน้ำตรงไหนที่ทำให้ร่างเขานิ่งมันต้องไม่ใช่ท้ายเรือ เพราะถ้าตกท้ายเรือมันจะตวัดมาโดนใบพัดเกิดแผลนิ่งแบบนี้เป็นไปไม่ได้ มันจะโดนใบพัดเต็มๆ มันจะต้องเป็นแผลลึก แต่อันนี้มีคำอธิบายว่ามีฟินเรือบังอยู่บาดแผลมันเลยไม่ลึก ส่วนบาดแผลใหญ่ที่สุดตรงต้นขา ไม่ขอพูดถึง เพราะเห็นรูปตอนแรกขอบแผลมันเรียบกริบ แต่พอมาเห็นหน้างานเขาเย็บปิดจนไม่สามารถบอกอะไรได้ ส่วนตัวให้ความเห็นว่าโอกาสโดนใบพัดเรือไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ เราไม่เชื่อคำให้การ แต่ไม่ได้เชื่อแบบอคิติ เราไม่เชื่อว่าเขาไปนั่งฉี่ แต่ต้องเอาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์”
รายงานของการชันสูตรครั้งแรก ตนไม่ได้ดู เพราะมันอยู่ในสำนวน แต่เขาก็ไม่ได้อธิบายเราว่ามีแผลแบบไหน จำลองไปแล้วแบบไหนบ้าง และไม่เคยเห็นภาพที่เขานำใบพัดมาจำลองกับศพ โดยใช้มือหมุนแทนมอเตอร์ ตามหลักการสามารถจำลองแบบนี้ได้ ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าแผลเกิดจากอะไร แต่เวลาสรุปต้องระวังเพราะมีตัวแปรเยอะ เช่น ใบพัดอันเดียวกันไหม ความคมของใบพัด หมุนด้วยความเร็วเท่าไหร่ สามารถเกิดจากอย่างอื่นได้ไหม จะสรุปเลยทันทีนั้นยาก และที่สำคัญ ในการจำลองจะต้องระวัง เพราะใบพัดและศพเป็นวัตุพยาน ใบพัดไม่ควรเอาอันจริงมาเพราะมันอาจต้องตรวจพิสูจน์อีก ส่วนศพเองต้องระวังไม่ให้เกิดแผล เพราะอาจต้องตรวจพิสูจน์อีกเช่นกัน ถ้าไม่ใช้ใบพัดจริงต้องใช้ใบพัดเทียบที่คล้ายกัน แต่จากการจำลองดังกล่าวหากใช้ใบพัดจริงอันนั้นไม่ถูกต้อง อยากบอกประชาชนว่าอย่าตกใจกับข่าวมาก เพราะศพฉีดฟอร์มาลีนมันแข็งมาก มีดใหม่ๆ กรีดยังไม่เข้าเลย ใบพัดเรือมันคงไม่คมขนาดนั้น แต่ใช่ว่าไม่เกิด ก็มีโอกาสเกิดแผลใหม่ได้แต่เป็นไปได้ยาก ส่วนเรื่องการรายงานจำนวนแผลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าเกิดจากการรายงานไม่ครบถ้วนมากกว่า
สำหรับเรื่องยาอัลปราโซแลมไม่ใช่สารเสพติด แต่ขึ้นชื่อสำหรับการมอมคน ไม่ได้ใช้แค่คลายเครียดอย่างเดียว ส่วนเรื่องสารเสพติดถ้าจะตรวจให้ได้ผลจะต้องตรวจจากคนเป็นๆ ด้วยเลือด และปัสสาวะ แต่ที่เป็นประเด็นคือสารต่างๆใช่ว่าตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด แล้วผลมันจะออกมาเลย สารบางตัวเราก็ต้องระบุว่าจะตรวจสารไหน จริงๆ แล้วเส้นผมเป็นวิธีที่ควรตรวจที่สุด แต่เขาไมได้ตรวจเพราะบอกว่าหวงผม แต่ไปบวช ซึ่งเส้นผมที่ศีรษะเนี่ยจะแม่นเรื่องระยะเวลาการรับสารเสพติด เพราะเส้นผมจะยาว 1 ซม.ต่อ 1 เดือน
ด้าน พงศกร มหาเปารยะ หรือ แต๊งค์ เพื่อนสนิทแตงโม กล่าวว่า มุมของของตนมองว่าหลังจากดูตำรวจแถลงปิดสำนวนคดีก็ยังไม่คลี่คลาย หรือตอบข้อสงสัยได้เลย เช่น จุดตกอยู่ตรงไหน แผลเกิดจากอะไร ซึ่งภาพที่ตำรวจนำมาใช้ก็ยังเป็นข้อกังขากันอยู่ และยิ่งมีเรื่องของการชันสูตรจากภาพที่คุณอัจฉริยะนำมาเผยแพร่ ก็ยิ่งกลับไปสงสัยในจุดเดิม พอมานั่งคิดดูแล้วศพมันบอกอะไรได้หลายอย่าง มันมีข้อพิรุธข้อบกพร่องของตำรวจหลายอย่างที่ไม่ทำงานร่วมกันหลายๆ หน่วยงาน ความจริงมันควรเป็นสิ่งที่เปิดเผยได้
เรื่องสารเสพติดก็ยังคงมีข้อสงสัยว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุทำไมตำรวจไม่ใช้อำนาจอายัดตัวไว้สอบสวน มีเจ้าหน้าที่สายตรวจลงพื้นที่ไปแล้วด้วย แต่อันนี้พอเกิดเหตุมีการแยกย้ายกันกลับบ้าน แถมของกลางก็นำไปเก็บไว้ที่อื่น มันควรจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขในการสืบสวนสอบสวน ส่วนที่ตนโพสต์กรณียาอัลปราโซแลม เพราะมันเคยมีประเด็นที่คนบนเรือใช้ยามอมผู้หญิง และยาตัวนี้มันก็เป็นยาควบคุม แต่เขามีไว้ในครอบครองมันเสี่ยงที่จะนำไปใช้กับคนอื่น ซึ่งไอยาตัวนี้มันเป็นที่นิยมในการใช้มอมคน ยิ่งถ้าหาข้อมูลจะพบว่า ใช้คู่กับแอลกอฮอล์จะออกฤทธิ์ได้ดี ดังนั้นควรจะพิจารณาว่าเขาครอบครองยาตัวนี้ไว้ทำอะไรบ้าง ตอนนี้ตนขอออกตัวเลยว่าคดีนี้ต้องมีคนผิดมาลงโทษ ต้องมีคนออกมารับผิดชอบเพราะฉะนั้นอะไรที่เป็นหลักฐานเล็กๆ น้อยๆ ใช้ในการมัดตัวคนผิด เลยออกมาช่วยพูด การที่คนบนเรือขอปฏิเสธการตรวจสารเสพติดตนว่ามันแปลกที่ตำรวจไม่สงสัย ขนาดตนยังสงสัย และสังคมก็สงสัย ตนเชื่อว่า 90 เปอร์เซ็นต์สังคมคิดไปในทางเดียวกันหมด แต่เขาคงมีเหตุผลของเขาที่จะปฏิเสธการตรวจ
ทุกวันนี้ยังไม่เชื่อว่าแตงโมตกท้ายเรือ ตัวผมเองไม่ได้มีความเชี่ยวชาญ แต่ผมฟังจากคำให้การว่าแตงโมไปฉี่ท้ายเรือแล้วประมาทตกไปเอง เราไม่เชื่อตั้งแต่ตรงนี้แล้ว หลายคนตั้งประเด็นว่าเป็นผู้หญิง เป็นดารา ต้องอายสิต้องไม่กล้าไปฉี่ท้าย แต่ถ้าคนที่รู้จักแตงโมจริงๆ แตงโมเป็นคนขี้กลัว เขาเป็นคนกลัวอันตราย อะไรที่มันผาดโผนเขาไม่เอาเลย การที่เขาจะไปฉี่ท้ายเรือขณะที่เรือวิ่ง 8 น็อต เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะทำ
ขณะที่ ศักดิ์สิทธิ์ ผึ่งประเสริฐ ผู้มีประสบการณ์ด้านการขับเรือสปีดโบ๊ท ได้ให้ความเห็นเรื่องของเรือ ตอนมาออกรายการล่าสุด ได้ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ว่าตกท้ายเรือ เพราะลักษณะเรือสปีดโบ๊ทท้องเรือเป็นวีเชป ขณะแล่นมันจะผลักน้ำออก ดังนั้นถ้าจะตกเรือแล้วเข้าใบพัดได้จะต้องเป็นช่วง 12 นาฬิกาคือด้านหัวเรือ และเรือแล่นอยู่ตกตรงอื่นยังไงก็จะจากกัน ขณะที่เรือแล่นด้วยความเร็ว 8 น็อต มันจะยังไม่เพนน้ำ จะยังจมอยู่ ใบพัดจะจมน้ำลึกมาก ซึ่งถ้าตกก็ต้องอยู่บนผิวน้ำสักพักหนึ่ง ในทฤษฎีถ้าหากเรือแล่นวนกลับมาแล้วมาชนด้านหัวเรือก็มีความเป็นไปได้ แต่ตนคิดว่าโอกาสเกิด 1 ใน 100 ถามว่าเรือมันจะดูดไม่ เพราะเรือไม่ใช่ท้องแบน มันเป็นวีเชป ตกไปอารมณ์เหมือนของมันเลาะกับแพง ถ้าจะไปถึงใบพัดต้องด้าน 12 นาฬิกาเท่านั้น
ส่วนใบพัดของเรือนั้นจะเป็นสแตนเลส มีความคมมาก ยิ่งคมยิ่งบาดน้ำได้ดี มีผลต่อความเร็ว มีขนาดใหญ่ และแข็งแรงมาก ยืนยันว่าคม บาดเชือกขาดได้ถ้าเข้าตรงสันที่ตัดน้ำตรงๆ
ซึ่งระหว่างรายการทางทีมงาน “ถกไม่เถียง” ได้ตรวจสอบข้อมูลว่าใบพัดเรือที่ใช้ในการจำลองกับศพเป็นของจริงหรือไม่ ทางทีมงานรายงานว่าเป็นใบพัดของจริง โดยคุณหมอพรทิพย์ ได้กล่าวว่า กฎหมายไทยไม่มีบังคับในเรื่องนี้ เอาผิดไม่ได้ แต่ในทางยุติธรรมต้องพร้อมที่จะให้คนอื่นตรวจสอบใหม่ ไม่ใช่ตรวจเสร็จแล้วจบ และถ้าจะให้คนอื่นตรวจต่อก็ต้องไม่ทำให้มันเปลี่ยนแปลง อันนี้เป็นแนวทางที่ควรระมัดระวัง ไม่ใช่กฎหมาย