เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 มี.ค. ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นประธานในการประชุมเพื่อพิจารณากรณีที่นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมและขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคดีการเสียชีวิตของลูกสาว น.ส.ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์ หรือแตงโม นิดา นักแสดงชื่อดัง
จากนั้นเวลา 12.00 น. นายสมชายแถลงภายหลังการประชุมว่า ยืนยันว่าจากการทำหน้าที่ในการสอบหาข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา กมธ.ยืนยันว่าเราได้ตระหนักถึงหน้าที่และอำนาจ โดยได้ทำงานภายใต้กรอบหน้าที่และอำนาจตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกมธ.ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2554 ข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ.2562 และระเบียบสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาว่าด้วยการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ.2558 ซึ่งไม่ได้เป็นการแทรกแซงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานใด ไม่ได้เป็นการใช้สถานะ ส.ว.หรือกมธ. กระทำใดๆ อันเป็นการก้าวก่าย หรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยตรงหรือทางอ้อม
นายสมชาย กล่าวต่อว่า สำหรับการให้ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น และการแถลงข่าวของกมธ.นั้น หากเจ้าหน้าที่หรือหน่วยปฏิบัติเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน หรือเป็นประโยชน์ต่อคดีก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ หรือหากเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการก็สุดแล้วแต่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานปฏิบัตินั้นๆ เพราะข้อเสนอแนะหรือข้อคิดเห็นของกมธ. ไม่ใช่ข้อสั่งการที่จะเป็นการแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่หรือหน่วยปฏิบัติแต่อย่างใด
“ผมยืนยันว่ากมธ.ไม่มีการสั่งการใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งจากในห้องประชุมและวันที่ไป สภ.เมืองนนทบุรี ซึ่งกมธ.เพียงแค่อยากเห็นความเป็นธรรมในบ้านเมือง สำหรับแนวทางต่อจากนี้ ภายหลังจากที่นางภนิดายื่นถอนเรื่องร้องเรียนนั้น ก็จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมกมธ.ในวันจันทร์หน้า (4 เม.ย.) พร้อมกับเรื่องที่นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ยื่นเรื่องขอให้สอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ผมยืนยันว่าไม่มีเรื่องไหนที่ทำให้ตำรวจเข้าใจผิดว่ากมธ.ไปแทรกแซงและไม่ทราบว่าใครไปรายงาน ผบช.ภ.1 ให้เข้าใจผิด ทั้งนี้ คงจะไม่มีการเคลียร์อะไรกัน รวมถึง ผบ.ตร. ด้วย เพราะท่านก็เป็น ส.ว.ด้วยกันกับผม ผมชื่นชมตำรวจว่าทำงานเก่ง ยืนยันว่ากมธ.พยายามทำหน้าที่ ไม่มีเจตนาแอบแฝงหรือผลประโยชน์อื่นใดเกี่ยวข้องแน่นอน”
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ สิทธิของผู้มายื่นเรื่องและถอนเรื่องสามารถทำได้ แต่จากประสบการณ์การทำงานในวุฒิสภามา 15 ปี ไม่เคยเจอกรณีนี้ มีแต่เรื่องที่กมธ.พิจารณาแล้วไม่รับเรื่องไว้มากกว่า ยืนยันว่ากรณีของคุณแตงโม เราพิจารณารับเรื่องเพราะเห็นว่ากระทบต่อกระบวนการยุติธรรม ต่อให้ไม่ใช่ดารา เป็นชาวบ้าน เราก็รับเรื่อง อย่าลืมว่าคดีนี้ไม่ใช่คดีหมิ่นประมาท แต่เป็นคดีอาญาแผ่นดิน ซึ่งต้องฝากความหวังไว้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในการสรุปสำนวนคดี หากเรื่องไหนชี้แจงได้ก็ขอให้ชี้แจง แต่เรื่องไหนเปิดเผยไม่ได้ก็ขอให้รีบดำเนินการ